Mi Pad มีอะไรน่าสนใจกว่าที่เห็นภายนอก
ก่อนอื่นต้องให้เครดิตเจ้าของข้อมูล http://www.miui.in.th/
วัตถุประสงค์ของกระทู้นี้เพื่อแฉอวัยวะภายในของครูใหญ่ Mi Pad ให้รับรู้กันยิ่ง ๆ ขึ้นไป
โปรดใช้วิจารณาในการรับชมให้มาก เพราะ "tablet inter brand made in China ระดับพระกาฬ ถูกและดีปรากฎในบรรณพิภพนี้แล้ว"
สำหรับท่านที่ผ่านมาเห็นกระทู้นี้และทราบดีอยู่แล้ว ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ที่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน แต่สำหรับท่านที่ผ่านมา ที่ยังมิได้เป็นเจ้าของ เมื่ออ่านจบแล้ว จะได้รีบไปไข่วคว้าหามาประดับบารมี แต่ถ้าหากท่านได้เป็นเจ้าของ Mi Pad แล้ว จะได้ซาบซึ้งว่า ท่านได้เพชรเม็ดงามไปไว้ครอบครอง และคุ้มยิ่งกว่าแฟลตปลาทอง (วลีนี้ ยุคหนึ่งเคยฮิตมาก ๆ)
ข้อมูลที่ได้มานี้ จะบอกกล่าวถึงแต่ข้อดี เพราะนำมาจากกลุ่มผู้พิศมัย Mi โดยส่วนตัวก็ชอบ แต่ยังไม่ได้ครอบครอง เพราะติดที่ "ใส่ซิมมะได้" แต่ถึงจะใส่ไม่ได้ ก็ยังน่าสนใจมาก ๆ อยู่ดี มาดูกันว่าน่าสนใจอย่างไร
1. MiPad นั้นมีงานประกอบประณีตและละเอียดเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนเลยหล่ะครับ
2. ตัว MiPad นั้นมีการออกแบบโครงสร้างมา 2 ชั้น ฝาครอบพลาสติกที่มีเสาอากาศอยู่จะช่วยปกป้องเมนบอร์ด
ไม่ให้เกิดความเสียหาย และยังมีแผ่นระบายความร้อนเสริมอีกชั้นเพื่อช่วยให้ตัวเมนบอร์ดไม่ร้อนเกินไปอีกด้วยครับ
3. ตัวด้านล่างของเครื่องมาพร้อมกับลำโพงคู่ที่อยู่ด้านล่างของแบตเตอรี่
4. MiPad นั้นใช้แบตเตอรี่ของ LG Lithium-ion ซึ่งมีความจุอยู่ที่ 6,520 mAh เทียบกับยี่ห้ออื่นๆ เช่น iPad Mini ที่มีแบตเตอรี่ความจุ 6,430 mAh , Nexus 7 3,950 mAh และ Kindle Fire HDX 4,550 mAh จะเห็นได้ว่า MiPad มีความจุของแบตเตอรี่สูงกว่า 3 ยี่ห้อที่กล่าวมาเลยหล่ะครับ
5. แบตเตอรี่ก้อนใหญ่ขนาดนั้นแล้วจะเอาสายที่ไหนมาต่อกับวงจรเมนบอร์ดหล่ะเนี่ยย?? นี่คือสายเชื่อมต่อวงจรพิมพ์เส้นเดียว แต่ครอบคลุมการทำงานเกือบทั้งหมดของตัวเครื่อง เช่น ช่อง micro usb สำหรับชาร์จไฟ หรือโอนถ่ายข้อมูล ลำโพง การรับสัมผัสของหน้าจอ และไฟ LED แจ้งเตือนที่อยู่ด้านบนของตัวเครื่องครับ
6. ถึงแม้กรอบเครื่อง ฝาหลังของเครื่องจะใช้พลาสติก แต่โครงสร้างภายในของเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ และสังเกตุได้ว่าชิ้นส่วนไมโครชิปที่แผงวงจรจะถูกคลุมด้วยอลูมิเนียมอัลลอยด์อีกชั้น แท็บเล็ตที่มีพื้นที่ภายในเครื่องกว้างขวางแต่กลับมีชิ้นส่วนแผงวงจรอยู่ไม่กี่อย่าง ฉะนั้นชิ้นส่วนไมโครชิพชิ้นเล็กๆพวกนี้ควรจะได้รับการปกป้องจากวัสดุที่ทนทานและแข็งแกร่งครับผม
6. ด้านล่างนี่คือเมนบอร์ดหลังจากแกะอลูมิเนียมที่คลุมไมโครชิปทั้งหมดออกแล้วครับ ปล.อลูมิเนียมที่คลุมไมโครชิปนี่ จากที่มาของข่าวเค้าบอกว่าแกะยากมากกกก และประกอบกลับให้เหมือนเดิมได้ยากด้วย (อุ๊ย!!)
7. ตรงนี้คือชิปเซ็ท NVIDIA Tegra K1 และ แรม SK hynix 2GB ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อยู่ในชิปตัวเดียวกันครับ ซึ่งเจ้าชิป NVIDIA Tegra K1 ถือว่าเป็นชิปตัวแรกเลยที่ใช้เทคโนโลยีในการรวมชิปเซ็ททั้ง 2 ตัวไว้ในตัวเดียวกันเลยก็ว่าได้
8. ถัดมาเป็นชิปหน่วยความจำ 16GB ซึ่งใช้ชิป eMMC ของโตชิบา โดยใช้กระบวนการผลิตให้มีขนาดเล็กลงถึง 22% ระบบการอ่าน-เขียนของชิปหน่วยความจำตัวนี้ เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดที่สุดของหน่วยความจำ eMMC เลยหล่ะครับ
9. ชิป TI44AJ121 ที่ทำหน้าที่ควบคุมพลังงานการจ่ายไฟแบตเตอรี่ภายในเครื่อง
10.ชิปเสียง Realtek’s ALC5671
11. ชิปขยายเสียง NXP TFA9890 แบบลำโพงคู่
ปกติแท็บเล็ตยี่ห้ออื่นๆจะมีลำโพงมาให้ข้างเดียว เพราะเนื่องจากพื้นที่ภายในเครื่องจำกัดเพราะมีแบตเตอรี่ก้อนใหญ่มาปิดบังพื้นที่ครับ
12. ชิป Broadcom’s BCM4354 ทำหน้าที่ควบคุม WiFI บลูทูธ และคลื่นวิทยุ FM ที่รับคลื่นความถี่แบบ 802.11ac. ถือว่าเป็นชิปตัวแรกของโลกที่รองรับคลื่นความถี่วิทยุ FM แบบ 802.11ac. โดยมีการเปิดตัวครั้งแรกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2014 ซึ่ง MiPad ก็นำชิปตัวนี้มาใช้เป็นเจ้าแรกเลยครับ
13. ในส่วนด้านบนของเมนบอร์ด มีไมโครโฟนคู่อยู่ครับ และจะอยู่อีกตัวหนึ่งซึ่งอยู่ข้างๆเลนส์กล้องด้วย
14. ด้านหลังของเมนบอร์ดนั้นค่อนข้างโล่งและเรียบ แต่ตรงตำแหน่งชิป CPU กับ ชิปควบคุมกำลังไฟ จะมีแผ่นระบายความร้อนแปะไว้อยู่ด้วย มีแผ่นระบายความร้อนแปะอยู่หลายที่ขนาดนี้ ผมว่าหมดกังวลกับเรื่องความร้อนไปได้เลยนะครับเนี่ย
15. นี่เป็นเลนส์กล่องที่นำไปใช้กับ MiPad ครับ ซึ่งกล้องหลังมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f2.0 ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เหมาะสำหรับสาวๆที่ชอบเซลฟี่นะครับ
16. ตรงนี้เป็นชิปที่คอยควบคุมการสัมผัสของหน้าจอ ATMEL MXT1664T ชิปตัวนี้มีความสามารถในการควบคุมสูงมาก ถึงแม้มือจะเปียกน้ำก็สามารถวัดการสัมผัสได้อย่างแม่นยำ และสามารถวัดการสัมผัสของมือที่ใส่ถุงมือได้ สุดยอดจริงๆเลย ><
ขอบคุณทุกท่านที่รับชมมาถึงตรงนี้ ขอบอกว่า งานนี้ก็ไม่ได้ตังค์อีกตามเคย ก็แค่อยาก "คืนความสุขให้ลูกค้าและว่าที่ลูกค้า มหาโฟน"
สุขจากอะไร ก็ไปคิดกันเอาเองละกัน
สวัสดี